Facebook Ads หรือ Google Ads แบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจคุณ
หากวันนี้ถ้าจะพูดถึงการทำการตลาดออนไลน์ สิ่งที่คนส่วนใหญ่นึกถึงก็คือ การทำการตลาดผ่านทาง Facebook Ads ไม่ก็ Google Ads เพราะทั้งสอง Platform นี้เป็นที่นิยมสำหรับคนไทยส่วนมาก (นึกอะไรไม่ออกก็ต้องถามอากู๋ หรือเห็นโปรโมชันดีๆก็จาก Facebook Feeds) ดังนั้นหากคุณเองอยากทำการตลาดผ่านทางสองช่องทางนี้ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าทั้งสองช่องทางนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วช่องทางไหนที่ตอบโจทย์กับธุรกิจของคุณ
การตลาดออนไลน์บน Facebook
การทำการตลาดออนไลน์ผ่านทาง Facebook Ads นั้นเป็นการทำการตลาดออนไลน์แบบเชิงรุก หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เป็นการนำเสนอข้อมูลสินค้าหรือบริการของคุณไปสู่กลุ่มเป้าหมายตามที่เรากำหนด ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ ที่อยู่ การศึกษา รายได้ พฤติกรรม หรือแม้กระทั่งความสนใจของคนๆนั้น โดยโฆษณาของคุณจะถูกแทรกไปยังหน้า Feeds ของกลุ่มเป้าหมายของคุณเพื่อให้เกิดการรับรู้ (Awareness) ในสินค้าหรือบริการของคุณ
หากข้อมูลสินค้าหรือบริการของคุณเป็นที่สนใจหรือตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก็จะสามารถเพิ่มโอกาสให้เกิดยอดขาย (Conversion) อย่างไม่ยาก ตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับเด็กอ่อน คุณอาจจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้เป็น ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือคนที่กำลังมีลูกอ่อน หรือคนที่มีพฤติกรรมเข้าดู/กดไลท์/กดแชร์เพจที่มีสินค้าเกี่ยวกับสินค้าเด็กอ่อนบ่อยๆ หลังจากที่คุณทำการโฆษณาออกไป กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะเห็นสินค้าของคุณผ่านทางหน้า Feeds ของ Facebook ส่วนตัวของพวกเขาและเขาก็อาจจะคลิกเข้ามาดูสินค้าของคุณ สุดท้ายก็อาจจะเปลี่ยนจากความสนใจมาเป็นยอดขายได้
ซึ่งการทำการตลาดบน Facebook นั้น เหมาะสำหรับใช้ทั้งการโฆษณาหรือโปรโมทสินค้าหรือธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว หรือการนำเสนอโปรโมชัน อัพเดทเรื่องราวหรือข้อมูลของสินค้าหรือบริการหรือกิจกรรมต่างๆของคุณที่กำลังจะจัดไปสู่กลุ่มลูกค้าเก่าๆ เพื่อสร้างสายสัมพันธ์และความคุ้นเคยทำให้ลูกค้าเก่าด้วยเช่นกัน
การตลาดออนไลน์บน Google Ads
การทำการตลาดออนไลน์บน Google นั้น เป็นการทำการตลาดออนไลน์สำหรับกลุ่มคนที่กำลังมีความต้องการในสินค้าหรือบริการนั้นๆอยู่แล้ว เพราะการตลาดออนไลน์บน Google นั้นเป็นการตลาดแบบเชิงรับ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะทำการค้นหาข้อมูลตาม คำค้นหา (Keywords) เฉพาะ ณ ช่วงเวลาที่เขาต้องการจะทราบข้อมูล หรือต้องการจะซื้อ ซึ่งคุณเองสามารถคาดการณ์และกำหนดกลุ่มคำค้นหาให้ตรงกับสินค้าหรือบริการของคุณได้อย่างแม่นยำ ซึ่งตรงนี้เองจะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าของคุณมาพบกับสินค้าหรือบริการของคุณ ณ ช่วงเวลาที่เขากำลังต้องการพอดี
เพราะฉะนั้นหากคุณเข้าใจถึงวิธีการคิด ณ ช่วงเวลาที่ลูกค้ามีความต้องการสินค้าหรือบริการของคุณ (Micro Moment) สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนจากยอดการเข้าชมเว็บไซต์มาเป็นยอดธุรกิจได้ แต่ข้อเสียหลักๆของการทำการตลาดออนไลน์บน Google นั่นก็คือ ถ้าสินค้าหรือบริการของคุณยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย บางครั้งการที่กลุ่มลูกค้าของคุณจะค้นหาแล้วพบเจอสินค้าของคุณอาจจะเป็นเรื่องที่ยากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย
บทสรุป
หลังจากเข้าใจความแตกต่างระหว่างการทำการตลาดออนไลน์บน Facebook กับ Google แล้ว คุณก็ต้องวางแผนว่าธุรกิจของคุณเหมาะกับการทำโฆษณาในรูปแบบไหน ซึ่งหากคุณอยากจะเพิ่มยอดธุรกิจพร้อมกับสร้างการรับรู้ของแบรนด์ไปพร้อมๆกัน คุณเองก็สามารถที่จะใช้การตลาดทั้งสอง Platform นี้ไปพร้อมๆกันได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกที่จะทำเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะในทางการตลาดออนไลน์ยิ่งคุณสามารถทำให้สินค้าหรือบริการของคุณเป็นที่รู้จัก สะดุดตามากเท่าไร ยิ่งจะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจและความเชื่อถือในตัวแบรนด์ของคุณแล้วกลายมาเป็นลูกค้าประจำในที่สุด สุดท้ายคุณเองก็จะมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่องแบบง่ายดาย